MOVIE REVIEW AND STORYLINE: ARGYLLE (2024)

Movie Review and Storyline: Argylle (2024)

Movie Review and Storyline: Argylle (2024)

Blog Article

รีวิวหนัง Argylle (2024) อาร์ไกล์ ยอดสายลับ


Movie Review and Storyline: Argylle (2024)



ข้อมูลหนัง


ประเภทหนัง:  สายลับ, แอคชัน, ตลก และระทึกขวัญ


ผู้กำกับ:  Matthew Vaughn


นักเขียน:  Jason Fuchs


นักแสดงนำ:  Henry Cavill, Bryce Dallas Howard และ Sam Rockwell





เรื่องย่อ


Argylle (2024) อาร์ไกล์ ยอดสายลับ เรื่องราวของ เอลลี่ คอนเวย์ เป็นนักเขียนนิยายสายลับชื่อดังผู้ชอบเก็บตัวในโลกส่วนตัวของเธอเอง เธอกำลังอยู่ในขั้นตอนการเขียนนิยายเล่มที่ห้าของซีรีส์ยอดนิยม Argylle ซึ่งมีตัวละครหลักชื่อออเบรย์ อาร์ไจล์ เนื้อหาของนิยายเล่มนี้เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่เอลลี่กลับต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเขียนต่อ หลังจากที่ได้รับคำติชมเชิงลบจากรูธ ผู้เป็นแม่ของเธอ ในระหว่างเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่ด้วยรถไฟ เธอกลับต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อถูกโจมตีโดยกลุ่มผู้ไม่หวังดี แต่ได้รับการช่วยเหลือจากชายลึกลับนามว่า เอเดน ไวลด์ ซึ่งเปิดเผยว่าเขาเป็นสายลับตัวจริง รับชมหนังฟรี เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ได้ฟรีที่นี่

 

เอเดนเตือนเอลลี่ว่าองค์กรลับที่ชื่อว่า ดิวิชั่น กำลังเล็งเป้าหมายมาที่เธอ เพราะนิยายของเธอมีความสามารถที่เหมือนจะ ทำนายอนาคต ได้อย่างแม่นยำ เขาชวนเธอเดินทางไปยังอังกฤษด้วยความหวังว่านิยายบทต่อไปของเธออาจมีคำใบ้สำคัญที่จะช่วยหยุดแผนร้ายของดิวิชั่นได้ เมื่อเดินทางถึงลอนดอน ทั้งคู่เริ่มค้นหา กุญแจสำคัญ ที่ถูกพูดถึงในนิยายของเอลลี่ แต่สถานการณ์กลับยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อเอลลี่เริ่มสงสัยว่าเอเดนอาจมีเจตนาแฝงและอาจต้องการกำจัดเธอ เธอจึงโทรหาพ่อแม่เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่ารูธและแบร์รี ผู้ที่เธอคิดว่าเป็นพ่อแม่แท้จริง กลับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของดิวิชั่น เธอและเอเดนจึงต้องร่วมมือกันหลบหนีไป

 

เหตุการณ์พาเอลลี่และเอเดนเดินทางไปถึงฝรั่งเศส ที่ซึ่งความลับอันน่าตกใจเปิดเผยขึ้น อัลเฟรด อัลฟี่ โซโลมอน อดีตรองผู้อำนวยการซีไอเอ เปิดเผยว่าเอลลี่ไม่ใช่แค่นักเขียนธรรมดา แต่เธอคือเรเชล ไคล์ สายลับที่ถูกดิวิชั่นจับตัวไปล้างสมองเมื่อห้าปีก่อน พวกเขาสร้างเรื่องราวในหัวเธอให้เชื่อว่ารูธและแบร์รีคือพ่อแม่ที่แท้จริง และเรเชลนำความทรงจำเหล่านี้แปลงเป็นนิยายที่เธอเขียน ทุกสิ่งที่เธอสร้างขึ้นใน Argylle จึงมีมิติของความจริงซ่อนอยู่ การเดินทางครั้งนี้พาทั้งคู่ไปยังคาบสมุทรอาหรับ ที่ซึ่งพวกเขาค้นพบ มาสเตอร์คีย์ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในแผนการของดิวิชั่น แต่กลับถูกล้อมจับโดยกองกำลังขององค์กร ริตเตอร์ ผู้อำนวยการดิวิชั่นเผยว่าเรเชลเคยเป็นสายลับสองหน้าและภักดีต่อองค์กร เขาวางแผนให้เธอจัดการเอเดนและอัลฟี่ อย่างไรก็ตาม เรเชลกลับหักหลังดิวิชั่นและส่งมาสเตอร์คีย์ให้อัลฟี่แทน ท้ายที่สุด เอเดนที่รอดจากอาการบาดเจ็บได้กลับมาช่วยเรเชล ทั้งสองต่อสู้ฝ่าด่านในโรงงานของดิวิชั่นจนไปถึงจุดเชื่อมต่อดาวเทียมเพื่อส่งมาสเตอร์คีย์

 

ความตึงเครียดถึงจุดสูงสุดเมื่อรูธพยายามใช้รหัสจิตวิทยาเพื่อบังคับเรเชลให้โจมตีเอเดน แต่กลับถูกขัดขวางโดยเคียร่า อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่ทุกคนคิดว่าเสียชีวิต เคียร่าเคยเป็นน้องสะใภ้ของเรเชลและเอเดน และยังเป็นอีกตัวละครหนึ่งที่เอลลี่ใส่ไว้ในนิยายของเธอด้วย ในท้ายที่สุด อัลฟี่ได้รับมาสเตอร์คีย์และเปิดเผยความจริงของดิวิชั่นต่อโลก ขณะที่เอเดนและเรเชลจุดชนวนระเบิดทำลายสำนักงานใหญ่ขององค์กร หลังจากเรื่องราวอันตื่นเต้นนี้ เรเชลกลับมาสู่บทบาทนักเขียนอีกครั้ง และตีพิมพ์นิยายเล่มสุดท้ายของเธอ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเปิดตัวหนังสือ เธอต้องเผชิญกับความจริงที่ทำให้ตกใจ เมื่อ Argylle ตัวจริงปรากฏตัวต่อหน้าเธอ สร้างความสับสนว่าชีวิตจริงและจินตนาการของเธอนั้นเกี่ยวพันกันอย่างไร ในฉากกลางเครดิต มีการย้อนเวลากลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน เผยให้เห็นว่าอาร์ไจล์ในวัยหนุ่มเคยเป็นสายลับขององค์กรคิงส์แมน และนวนิยายเล่มแรกของเอลลี่นั้นมีต้นกำเนิดจากชีวิตจริงของเขาเอง



ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์


Argylle (2024) อาร์ไกล์ ยอดสายลับ ภาพยนตร์แอ็คชั่นจากผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Matthew Vaughn มีจุดเริ่มต้นที่ดูเหมือนจะนำเสนอสไตล์ล้อเลียนภาพยนตร์สายลับในแบบที่น่าสนใจ แต่กลับดำเนินเรื่องอย่างไม่สมดุลและสะดุดจนทำให้ศักยภาพของตัวหนังไม่ถูกใช้อย่างเต็มที่ เรื่องราวเปิดด้วยฉากที่ Henry Cavill รับบทเป็น Argylle สายลับผมสูงสลวย เข้าร่วมงานในคลับสุดหรูในกรีซ และพบกับ LaGrange (Dua Lipa) หญิงสาวที่โดดเด่นด้วยชุดสีทองระยิบระยับ ทั้งคู่มีฉากเต้นรำที่เร่าร้อน ก่อนที่สถานการณ์จะพลิกผันกลายเป็นฉากแอ็คชั่นไล่ล่าที่เต็มไปด้วยกระสุนและระเบิด โดยมีทีมสนับสนุนของ Argylle ที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี (Ariana DeBose) และผู้ช่วย (John Cena) ช่วยให้เขาหลบหนีอย่างหวุดหวิด

 

เรื่องราวกลับพลิกตลบเมื่อเปิดเผยว่าตัวละครเหล่านี้เป็นเพียงผลงานจากจินตนาการของเอลลี่ คอนเวย์ (Bryce Dallas Howard) นักเขียนนิยายสายลับที่กำลังประสบภาวะขาดแรงบันดาลใจ และกำลังเขียนนิยายเล่มที่ห้าของซีรีส์ขายดี Argylle เหตุการณ์ยิ่งพลิกซับซ้อนขึ้นเมื่อเอลลี่พบกับเอเดน (Sam Rockwell) สายลับตัวจริงผู้มาเตือนเธอว่าองค์กรลับ ดิวิชั่น กำลังตามล่าเธอ เพราะนิยายของเธอมีรายละเอียดที่ใกล้เคียงกับภารกิจจริงอย่างน่าประหลาด และอาจเปิดโปงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ แฟลชไดรฟ์ ที่ดิวิชั่นต้องการ

 

บทภาพยนตร์โดย Jason Fuchs พยายามผสมผสานความตลกขบขันเข้ากับฉากแอ็คชั่นในสไตล์ล้อเลียน แต่กลับดำเนินเรื่องแบบขาดสมาธิและจังหวะที่สม่ำเสมอ การตัดต่อที่สลับไปมาระหว่างมุมมองบุคคลที่หนึ่งและการตัดภาพใบหน้าไปมาระหว่างตัวละคร Argylle ในจินตนาการของเอลลี่ (Cavill) และเอเดนในโลกความจริง (Rockwell) แม้จะมีความแปลกใหม่ แต่กลับยิ่งทำให้หนังดูสะเปะสะปะมากขึ้น แทนที่จะสร้างความน่าสนใจให้กับพล็อตที่ซับซ้อนอยู่แล้ว ฉากแอ็คชั่นหลายฉากดูเหมือนถูกนำเสนอแบบผ่านๆ ไม่ได้สร้างความตื่นเต้นหรือความประทับใจแบบที่หนังสายลับควรจะมี แม้ว่าจะมีแรงบันดาลใจจากผลงานชื่อดังอย่าง James Bond, National Treasure, The Bourne Identity และ Kingsman ก็ตาม ตัวละครสมทบอย่าง Samuel L. Jackson และ Richard E. Grant ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างสีสันกลับถูกลดบทบาทให้น่าเสียดาย การใช้เพลง Now and Then ของ The Beatles ซ้ำถึงสามครั้งในฉากสำคัญ แม้จะช่วยเพิ่มความยิ่งใหญ่ แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นการใช้กลยุทธ์ที่ฉาบฉวยมากกว่าการสร้างอารมณ์ร่วม

 

นักแสดงอย่าง Bryce Dallas Howard และ Sam Rockwell ซึ่งมีเคมีที่น่าสนใจในช่วงแรก เริ่มสูญเสียพลังเมื่อเนื้อเรื่องค่อยๆ คลายปมด้วยความจริงจังที่ไม่สอดคล้องกับน้ำเสียงที่ล้อเลียนของหนังในตอนแรก นอกจากนี้ ฉากแอ็คชั่นไคลแม็กซ์ที่ตั้งใจให้แปลกใหม่และยิ่งใหญ่ กลับกลายเป็นหนึ่งในฉากที่น่าเบื่อที่สุดของภาพยนตร์ เนื่องจากการออกแบบการต่อสู้และการเคลื่อนไหวที่ดูแข็งทื่อ และขาดเอกลักษณ์ของ Vaughn ในการสร้างฉากแอ็คชั่นที่เต็มไปด้วยความลื่นไหลและพลัง ถึงแม้ Argylle จะมีช่วงเวลาที่สนุกสนานและจังหวะการแสดงที่น่าจดจำในบางฉาก โดยเฉพาะการแสดงของ Catherine O'Hara และ Bryan Cranston แต่ความพยายามที่จะยกระดับตัวเองจากการเป็นหนังล้อเลียนไปสู่หนังสายลับแบบเต็มรูปแบบ กลับทำให้ภาพยนตร์ขาดจุดยืนที่ชัดเจน และหลงทางระหว่างสองแนวทางที่แตกต่างกัน ในท้ายที่สุด Argylle มีศักยภาพที่จะเป็นภาพยนตร์ล้อเลียนสายลับที่เฉียบแหลม แต่ด้วยการพยายามมากเกินไปที่จะหลอมรวมสองแนวทางเข้าด้วยกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงกลายเป็นงานที่ขาดเสน่ห์และหลงลืมง่าย ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ mvhd24.com ภาพคมชัด ไม่มีโฆษณาคั่น รับชมหนังฟรี ตลอด 24 ชม.

 

#Argylle  #อาร์ไกล์ยอดสายลับ  #หนังฟรี  #mvhd24  #รีวิวหนัง  #MovieReview  #MovieSpoilers


 


กลับด้านบน

Report this page